#โฉมหน้าบรรพบุรุษคนไทยยุคน้ำแข็งตอนปลาย
เมื่อวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๖๑ รองศาสตราจารย์ ดร.รัศมี ชูทรงเดช (Rasmi Shoocongdej) #SU36/#บค๒๕ “#อาจารย์พี่อิ๋ว“ อาจารย์ประจำภาควิชาโบราณคดี #คณะโบราณคดี #มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้นำสื่อมวลชนลงสำรวจร่องรอยวัฒนธรรม “#ถ้ำผีแมนโลงลงรัก“ แห่งใหม่ ในอำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งได้รับทุนส่งเสริมการวิจัยจาก #สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)
ทั้งนี้ได้ประสบความสำเร็จในการขึ้นรูปหน้าจำลองของผู้หญิงจากโครงกระดูกโบราณในช่วงเวลาสิ้นสุด #ยุคน้ำแข็ง (Ice Age) หรือ #สมัยไพลสโตซีน (Pleistocene : PS; เป็นธรณีกาลระหว่าง ๒.๕๘๘ ล้านปี ถึง ๑.๑๗ หมื่นปี / ก่อนที่มียุคน้ำแข็งเกิดขึ้น) ซึ่งตรงกับปลายยุคน้ำแข็งของยุโรป และโครงกระดูกดังกล่าว ซึ่งเป็น ๑ ใน ๔ โครงกระดูกผู้หญิงที่เสียชีวิตช่วงอายุประมาณ ๒๕ – ๓๕ ปี และมีอายุเก่าแก่ถึง ๑.๓๖๔ หมื่นปี ที่ขุดพบจาก “#แหล่งโบราณคดีเพิงผาถ้ำลอด“ อำเภอปางมะผ้า ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๔๖ นับเป็น #การพบวัฒนธรรมก่อนประวัติศาสตร์เก่าแก่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ความสำเร็จในการขึ้นรูปหน้าจำลองครั้งนี้ ดำเนินการร่วมกับ “ดร.ซูซาน เฮยส์“ (Dr. Susan Hayes) จากมหาวิทยาลัยวอลลองกอง (Wollongong University) ประเทศออสเตรเลีย ที่ต้องเปรียบเทียบจากแฟ้มภาพและเปรียบเทียบคลังกะโหลกศีรษะของผู้หญิงในยุคเดียวกัน จำนวน ๗๒๐ ตัวอย่างจาก ๒๕ ประเทศทั่วโลก
นับเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นระดับโลก เพราะการ #ขึ้นรูปหน้า หรือการ #จำลองใบหน้า จากชิ้นกระดูกกะโหลกศีรษะและใบหน้าบางส่วนนี้ นับเป็น #ครั้งแรกของไทยและของโลกที่จะได้เห็นใบหน้าผู้หญิงในยุคปลายสุดของยุคน้ำแข็ง
ก่อนหน้านี้ คณะนักวิจัยได้ประสานให้ “นายวัชระ ประยูรคำ“ (#อาจารย์อ๊อด) #SU/#PSG ประติมากรอิสระ ทดลองปั้นใบหน้าเป็นสามมิติโดยใช้ข้อมูลจาก “นางนัทธมน ภู่รีพัฒน์พงศ์ คงคาสุริยฉาย“ ซึ่งเป็นผู้ขุดค้นโครงกระดูก มาทำการวิเคราะห์และจำลองแบบขึ้นมาด้วยการอาศัยโปรแกรมคอมพิวเตอร์แล้วหล่อเรซินเบื้องต้น ผลวิเคราะห์สรุปว่าหน้าตาของผู้หญิงโบราณรายนี้เป็น “โฮโม เซเปียนส์ เซเปียนส์“ (Homo Sapiens Sepiens) รูปใบหน้ามีโหนกแก้มสูง ดวงตามีรูปร่างคล้ายเมล็ดอัลมอนด์ ผิวสีน้ำตาล ผมน่าจะเป็นสีดำออกน้ำตาล และหน้าตาเหมือนกับผู้หญิงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“อาจารย์อิ๋ว“ กล่าวว่า ล่าสุดยังสำรวจขุดค้น “แหล่งโบราณคดีถ้ำผีแมนโลงลงรัก“ แห่งใหม่ ซึ่งพบมีโลงไม้และโครงกระดูกมนุษย์จำนวนมาก อายุกว่า ๒ พันปี เป็นหลักฐานทางโบราณคดีและร่องรอยของคนโบราณบนพื้นที่สูงที่ไม่เคยพบมาก่อน เช่น โลงไม้ (ขนาดและรูปทรงต่างๆ) กระดูกคนในโลงไม้ การฝังศพบนพื้นถ้ำ โลงไม้ที่มีการลงลวดลายผิวด้านนอกด้วยยางรัก ซึ่ง “#วัฒนธรรมโลงไม้“ เป็นวัฒนธรรมใหม่ของคน “#ไป่เย่ว“ จากจีนตอนใต้ (ตั้งแต่มณฑลยูนนานถึงชายฝั่งทะเล) และกลุ่มคนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในเบื้องต้นสันนิษฐานว่ามีเชื้อสายเดียวกับ “#คนไท“ โดยดูจากการตกแต่งฟันที่ส่งไปตรวจสอบ
การค้นพบโลงไม้ในถ้ำแห่งนี้ ทีมวิจัยแบ่งจุดสำรวจออกเป็น ๓ ห้องโดยเฉพาะห้องเอ ๑ (A1) ที่มีขนาดเพียงโดย ๘ x ๙ เมตร พบโลงไม้ที่มีความสมบูรณ์ถึง ๒๐ โลง มีช่วงอายุ ๑.๙ – ๑.๖ พันปี โดยเฉพาะพบว่ามีช่วงอายุหลากหลายช่วงวัย ทั้งวัยเด็กและวัยกลางคน ขณะนี้กำลังวิเคราะห์ชิ้นส่วนกระดูก เพื่อ “#ต่อจิ๊กซอว์“ โดยการตรวจสอบดีเอ็นเอเพื่อหาความสัมพันธ์ทางเครือญาติและเชื้อสาย ซึ่งมีแนวโน้มว่าโครงกระดูกที่พบใน “ถ้ำผีแมนโลงลงรัก“ น่าจะมีความสัมพันธ์ทางเครือญาติกัน.
คลิปสัมภาษณ์บางส่วน
https://youtu.be/15SJVLZOlK8
ศึกษาผลงานการวิจัยเพิ่มเติมจากบทความเรื่อง “A Late Pleistocene woman from Tham Lod, Thailand : the influence of today on a face from the past“ ซึ่งตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ “#Antiquity“ ของคณะวิจัย ประกอบด้วย ดร.ซูซาน เฮยส์, รองศาสตราจารย์ ดร.รัศมี ชูทรงเดช, นางนัทธมน ภู่รีพัฒน์พงศ์, ศาสตราจารย์พิเศษสรรใจ แสงวิเชียร และ ดร. ทันตแพทย์หญิงกนกนาฏ จินตกานนท์ http://www.livescience.com/58705-stone-age-woman-had-modern-face.html
You must be logged in to post a comment.